เคยมั้ยที่เสียเวลาวางแผนเสียดิบดี แต่พอถึงเวลาที่ต้องทำจริงแล้วกลับไม่ได้ทำตามแผนนั้น หรืออยากจะทำก็ทำไม่ได้เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หรือไม่ก็ ทำแผนจวนจะเสร็จแล้วประกฏว่า เอ๊ะแล้วไอ้นี่จะไปทำเมื่อไหร่ดี แล้วก็งงๆ ตอบตัวเองไม่ได้
อาการเหล่านี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะความเปลี่ยนแปลงเป็นของคู่โลก เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำแผนหรือตัดสินใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งไป ข้อมูลทุกอย่างที่เราใช้เพื่อการตัดสินใจนั้น ได้ล้าสมัยไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้แผนปฏิบัติการของเราอาจจะไม่สำฤทธิ์ผล ยิ่งช่วงเวลาระหว่างที่เราตัดสินใจ ไปจนถึงเริ่มดำเนินการนานเท่าไหร่ ก็เป็นความเสี่ยงที่จะทำได้ไม่สำเร็จตามเป้ามากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้การที่เราถูกปลูกฝังให้ระลึกถึงการควบคุมเวลา(Time Management) อยู่เสมอ ทำให้บางครั้งเราลืมคิดไปว่า การจัดการเวลาก็มีค่าใช้จ่าย หลายครั้งมันแพงกว่าตัวเนื้องานเองด้วยซ้ำ ตัวอย่างเช่นเรา้ต้องส่งเมล์ขอบคุณใครซักคน เราจึงเปิด Outlook สร้าง item ใน Todo list แล้วตั้งให้ schedule ตอนก่อนกลับบ้าน ฟังดูแล้วอาจจะตลก แต่ว่าในความเป็นจริง หลายครั้งที่เราทำอย่างนี้จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ฉุกคิดเลยว่า ส่งไปตอนนี้เลย ถูกกว่าเสียเวลาทำ Todo list เยอะ Ben (นายเก่าผม ให้เครดิตหน่อย) เคยบอกไว้ว่า
Todo list น่ะมันคือ Don’t do (now) list ตังหาก
หลักการนี้จริงๆ แล้วไม่ใช่เพิ่งจะมี ถ้าหากเคยศึกษาเรื่องลีนมาบ้าง จะมีหัวข้อหนึ่งพูดเรื่อง “Decide as late as possible” ซึ่งพูดเกี่ยวกับความไม่แน่นอน และการควบคุมความเสี่ยงที่เกิดจากความไม่แน่นอนนั้น ด้วยการศึกษาวิเคราะห์ทุกๆ ความเป็นไปได้ โดยใช้ 5Why และ 5How หรือถ้าหากเป็นงานที่สำคัญมากๆ (Mission Critical) คือถ้าเวลาผ่านไปแล้วเจ๊งจะถึงขั้นหมดตัวหรือเสียชีวิต อาจต้องถึงขั้นเอา Set-based Solutions มาใช้เพื่อการันตีความสำเร็จ หรือความอยู่รอด
ทำทันทีจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ หากแต่เป็นการเอาของเก่ามาพูดในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเข้าใจได้ง่ายขึ้น และเปิดออกให้กว้างขึ้นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ชื่อยา: ทำทันที
สรรพคุณ: รักษาอาการมีแผนแต่ไม่ทำตาม หรือทำตามไม่ได้เพราะแผนไม่เข้ากับสถานการณ์แล้ว(outdated) รวมถึงป้องกันอาการค่าบริหารแพงกว่าค่าลงมือทำ
ข้อบ่งใช้: ไม่ถึงเวลาอย่าตัดสินใจ ถ้าตัดสินใจทำแล้วต้อง ทำทันที!