ผมเห็นหลายคนที่มีคำถามเกี่ยวกับการจัดการด้วยอไจล์ แล้วมักได้คำตอบจากผู้รู้ว่า “แล้วแต่ทีม” ผมว่ามันไม่ถูกต้องเสียทีเดียว
ถึงแม้ methodology หลายตัวเช่น สกรัม มักจะบอกว่า ทีมต้องได้รับอำนาจในการตัดสินใจ (empowered) แต่การให้ทีมตัดสินใจทุกอย่างนั้นผมว่ามันเกินไป ถ้าจะโลกสวยก็อย่างหนึ่ง แต่ว่าความเป็นจริงแล้ว การรับฟังต่างหากที่สำคัญ
“Customer collaboration over contract negotiation”
ตัวอย่างเช่น มีคำถามเกี่ยวอไจล์ผ่านตาผมมาว่า
“ถ้า QA เจอบั๊ก ของ สตอรีใน สปรินต์ ควรเปิดเป็น bug story หรือไม่?”
ปรากฏว่า คำตอบคือ
“..เป็นเรื่องของทีม” – คือให้ทีมตัดสินใจว่าจะเปิดหรือไม่
ฟังดูดี แต่…
ความคิดส่วนตัวผมคือ เรื่องรายละเอียดปลีกย่อยนั้นจะต้องดูเป็น case by case คำตอบของสถานที่หนึ่ง ใช้ไม่ได้กับอีกสถานที่หนึ่ง ความต้องการของ customer ต่างหากที่สำคัญ คำว่า customer นั้นไม่ได้แปลว่า ลูกค้าภายนอกองค์กรเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงภายในด้วย เช่น tester ย่อมเป็นลูกค้าของ developer หรือ developer ย่อมเป็นลูกค้าของ designer ซึ่งจะเชื่อมโยงกันเป็นทอด ๆ จนไปถึงลูกค้าตัวจริง ที่ซื้อสินค้าหรือบริการของเรา
คำถามง่าย ๆ อย่าง สมควรเปิด bug story หรือไม่ ความจริงนั้นไม่ง่ายเลย เป็นเรื่องซับซ้อน ซึ่งเราจะต้องรู้ก่อนว่า เปิดไปทำไม ใครต้องการใช้ข้อมูลนี้ และ ใช้เพื่ออะไร แล้วจึงสามารถคิดได้ว่า ควรหรือไม่ควรเปิด ถ้าควรเปิดควรอย่างไร ซึ่งก็อีกนั่นแหละ อาจจะมีบางกรณีที่สมควรเปิด และบางกรณีที่ไม่สมควร จู่ ๆ โยน อำนาจหน้าที่นี้ไปให้ทีมเป็นคนตัดสินใจนั้น มีความเสียงมาก ว่าทีมพร้อมที่จะตัดสินใจหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่พร้อมแล้ว อาจนำมาซึ่งความเสื่อมถอย จนไปถึงความล่มสลาย ของการก้าวสู่อไจล์ขององค์กรเลยก็ได้
ขอให้ ผู้อยู่ในแนวหน้าของการเปลี่ยนแปลงองค์กรไปสู่ความเป็นอไจล์ (change agent) พึงระลึกเสมอว่า ทุก ๆ การตัดสินใจของพวกท่าน จะกระทบต่ออนาคตของทุกชีวิตในองค์กร ถ้าหากท่านพลาด หมายถึง องค์กรจะหลุดไปสู่ยุคมืดที่ท่านไม่ชอบ และอยากจะเปลี่ยน
ขอให้ จำไว้เสมอว่า อไจล์ ไม่มี best pratices ถ้าหากท่านได้คำตอบแบบ best practices คือ ไปทำตามนี้เลย work ให้ระลึกไว้เลยว่า ไม่น่าจะ work และไม่ใช่ว่า อไจล์ไม่ work แต่เป็นเพราะ มันเป็นเรื่องเฉพาะสถาน เฉพาะกาล เฉพาะบุคคล
ขออภัยด้วย ผมหงุดหงิด กับคำตอบแบบไม่รับผิดชอบแบบนี้น่ะ เกิดคนฟังเค้าเชื่อแล้วเอาไปทำตามนี่ ชีวิตเค้าอาจจะแย่ก็ได้เลยนะ แล้วจะรับผิดชอบกันอย่างไร? ท่านกูรูทั้งหลาย
อ่านแล้วชอบตรง
“ทุก ๆ การตัดสินใจของพวกท่าน จะกระทบต่ออนาคตของทุกชีวิตในองค์กร”
ไม่มีทีม แล้วผมจะผลักงานผลักความรับผิดชอบออกจากตัวเองยังไงดี #จากใจคนชอบทำงานเป็นทีม
เอ ผมไม่ได้บอกว่า”ไม่มีทีม”นะ งงแฮะ อ่านใหม่ช้าๆ ดูนะครับ