หลายคนพอเริ่มใช้อไจล์ ก็จะมีความเคยชินว่า ถ้าไม่มีหัวหน้าสั่งล่ะก็ควรจะตัดสินด้วยการโหวต แต่ความจริงแล้วอไจล์ไม่อนุญาตให้ทำอย่างนั้นนะ
เหตุที่อไจล์ไม่อนุญาตให้ทำอย่างนั้นเพราะ อไจล์ให้ความสำคัญกับทีม และทีมเวิร์ค การโหวตนั้นจะทำให้เกิดการแพ้ชนะกันขึ้น คนเราพอชนะก็จะไม่เห็นค่าของคนแพ้ ส่วนพอแพ้ก็จะเกลียดชังคนชนะ แล้วก็จะเกิดการสู้รบปรบมือต่อไปไม่จบสิ้น สุดท้ายทีมก็เสีย กลายเป็นเพียงแต่คนทำงานด้วยกันเท่านั้น
บางคนอาจจะอ้างว่า เหตุที่ทะเลาะกัน แล้วไม่ยอมรับผลของการโหวตนั้น เป็นเพราะวุฒิภาวะของคน ถ้าหากเป็นคนดีด้วยกันทั้งหมดแล้ว ก็จะยอมรับ และไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันแบบนั้น ซึ่งก็จริงอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ก็อีกนั่นแหละ ในการโหวตเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนส่วนใหญ่เป็นฝ่ายถูก ความจริง ก็คือไม่มีใครรู้เลย การโหวตเอาแพ้เอาชนะกันมีแต่ จะทำให้คนไม่เห็นด้วย คอยโอกาสที่คนส่วนใหญ่ตัดสินใจผิดพลาด แล้วมาบอกว่า เห็นไหม เราบอกแล้วไม่มีใครเชื่อ ซึ่งสุดท้าย ก็ไม่ได้สร้างผลดีใด ๆ เลย
อไจล์จึงกำหนดไว้ว่า การตัดสินใจใด ๆ ก็ตาม จะต้องเป็นแบบ เอกฉันท์ คือทุกคนเห็นร่วมกันแล้วจะถึอว่าเป็นอันสิ้นสุด เพราะ จะไม่มีใครมาบอกทีหลังได้ว่า เราบอกแล้ว หรือ เป็นเพราะพวกนาย รวมหัวกัน จึงได้ตัดสินใจผิดเช่นนี้ นอกจากนี้เพราะทุกคนจะต้องโน้มน้าวให้คนอื่น ๆ เห็นตรงกัน การรับฟังความเห็นของคนส่วนน้อย จึงมีความจำเป็น ทุกคนจะเรียนรู้ในเวลาไม่นานว่า ถ้าไม่ยอมฟังก็จะไม่สามารถโน้มน้าวให้ทุกคนเห็นตรงกันได้
สิ่งที่หลายคนกลัวคือ การคอยให้มีมติเอกฉันท์นั้นใช้เวลานาน ซึ่งก็จริง แต่ยิ่งเวลาเนิ่นนาน ทุกคนจะอ่อนล้ามากขึ้น แต่เป็นเรื่องแปลกที่ความก้าวร้าวในแต่ละคนก็จะอ่อนโยนขึ้นตามไปด้วย กลายเป็นว่า จะมีก็ครั้งแรก ๆ เท่านั้นที่ใช้เวลานาน พอทุกคนเริ่มเข้าใจระบบแล้ว การตัดสินใจจะเกิดขึ้นรวดเร็วมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะทุกคนรู้จักฟังความเห็นของคนอื่น ๆ และสามารถให้ความเห็นแย้งได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล และมีการใช้อารมณ์น้อยตามไปด้วย
สรุป คือ การโหวต เป็นการทำลายทีม ในขณะที่การใช้มติเอกฉันท์ จะสร้างสรรค์ให้เกิดทีมเวิร์คขึ้นได้
Q.E.D.