วันนี้เป็นวันที่ในหัวว่างเปล่า มีแต่เรื่องการเมืองสิงสถิต คิดแต่ว่า ยุบสภาแล้วบ้านเมืองจะไปทางใดต่อ
จู่ ๆ ความรู้สึกอันหนึ่งก็หลุดผลัวะเข้ามาว่า อุเบกขา ซะ
คำว่าอุเบกขานี้ มักมีผู้แปลว่า วางเฉย แต่ความจริงแล้วเป็นการวางเฉยเฉพาะอารมณ์ คือวางอารมณ์เฉย อารมณ์นี้เป็นภาษาธรรม แปลว่า ความรู้สึก ชอบ ไม่ชอบ หรือ ไม่ทั้งชอบและไม่ชอบคือ เฉย ๆ เพราะฉะนั้น อุเบกขาจึงไม่ใช่การวางเฉยแบบที่พวกเราเข้าใจ แต่เป็น การวางอารมณ์ รัก เกลียด ชอบ ไม่ชอบ และเฉย ๆ คือ วางความรู้สึกส่วนตัวให้หมด
วิธีการหนึ่งคือ ต้องคิดว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเราโดยตรง เป็นเรื่องของคนอื่น ใครก็ไม่รู้ แล้วจัดการตามเหตุผลที่สมควรแก่กาล กล่าวคือ ใช้หลัก สัปปุริสธรรม 7
ได้ยินจากบางคนก่อนหน้าวันนี้ คนหนึ่งมีลูกบอกว่า คงไม่ออกไปเพราะถ้าหากเป็นอะไรไปเดี๋ยวไม่มีคนดูแลลูก ส่วนอีกคนออกไปเพราะมีลูก คือกลัวไม่มีบ้านเมืองให้ลูกได้อาศัยในวันข้างหน้า นี่เรื่องของคนมีลูก ส่วนบางคน เป็นเด็กบอกเรื่องของผู้ใหญ่ ฉันมีหน้าที่เรียนหนังสือ ส่วนอีกคนบอกตัวเองแก่แล้วเป็นเรื่องของเด็ก ๆ นี่ก็เรืื่องของอายุ
สิ่งที่ทุกคนต้องทำในขณะนี้คือมีสติ วิธีการเรียก สติ ที่ดีที่สุดคือตั้งอุเบกขา ออกมาเพราะเป็นหน้าที่ ไม่ใช่ออกมาเพราะ อารมณ์เกลียดชัง แล้วด่าว่าคนไม่ออกมา อันนี้เรียกว่า ขาดสติ
ขอให้มีสติกันมาก ๆ และขอให้บ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้โดยเสียหายน้อยที่สุดด้วยเทอญ
*ขออภัย วันนี้ไม่อไจล์