การทำงานนั้น การมีความยืดหยุ่นเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่การทำงาน ถ้าหากพนักงานคิดว่า เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ฉัน แล้วไม่ยอมทำถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งจำเป็น ก็อาจจะทำให้งานเสียได้
ถูกต้องครับ ผมกำลังพูดถึงการทำงานแบบ ร่วมมือกันข้ามหน้าที่หรือที่เรียกว่า cross function มีหลายเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำงานแบบนี้ ว่า ไม่ควรมีการกำหนด ชัดเจนว่า ใครควรจะทำอะไร เพราะจะได้ ช่วยเหลือกัน หรือ ทำงานแทนกันได้ง่าย แต่ความจริงแล้ว เป็นไปในทางตรงกันข้ามเลย เพราะ เมื่อไม่มีการกำหนดชัดเจน ก็กลับกลายเป็นว่า ทุกอย่างมีแต่ความสับสน ไม่มีใครรู้ว่า แต่ละคนต้องทำอะไร สุดท้าย งานบางงานเลยไม่มีใครทำ เกิดเป็นปัญหายิ่งกว่าเดิมเสียอีก
ที่ถูกต้องคือ เราต้องมีการกำหนดชัดเจนว่าใครมีหน้าที่ทำอะไร แต่กำหนดเพิ่มเติมว่า ทุกคนสามารถช่วยเหลือกันทำงานได้ ตามสมควร และคนที่จะช่วยเหลือคนอื่น ก็จะต้องดูว่า งานของตนเอง เสร็จเรียบร้อยหรือยัง
ความจริงแล้ว ในบางบริษัทที่ขาดการช่วยเหลือซึ่งกันและกันนั้น มักจะมีการกำหนดหน้าที่การทำงานตายตัว แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้พนักงานไม่ยอมช่วยเหลือซึ่งกันและกัน กลับไม่ได้มาจากการกำหนดหน้าที่ แต่มาจากหลักการประเมินผลงานเฉพาะบุคคลต่างหาก เพราะงาน ๆ หนึ่งจะสำเร็จลุล่วงได้นั้น มักไม่ได้เกิดจากคน ๆ เดียว แต่เกิดจากการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของพนักงาน เมื่อบริษัทมีวัฒธรรมปูนบำเหน็จ ผู้ที่นำเสนอผลงาน จึงทำให้เกิดความรู้สึกว่า ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือให้คนอื่นได้ผลงานไปคนเดียวทำไม สุดท้าย การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จึงจางหายไปในที่สุด หาได้มาจากการกำหนดหน้าที่การทำงานให้ชัดเจนไม่