ขึ้นชื่อว่า “คนฉลาด” หรือ “คนเก่ง” ก็มักจะรู้สึกว่า คนอื่นใช้ไม่ได้ คนอื่นไม่ฉลาดหรือเก่งเท่าตนเอง ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรเพราะเขาฉลาดจริงเก่งจริง แต่โลกไม่ได้ตัดสินคนที่ความฉลาดหรือความเก่ง แต่ตัดสินจาก outcome หรือผลสัมฤทธิ์ของการทำงาน
ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่คนเก่งหลายคนตกม้าตาย เพราะ เอาแต่คิดว่าตนเอง แล้วก็หลงไปว่า งานที่มีตรงหน้านั้นช่างไม่สมศักดิ์ศรีความเก่งของฉันเลย จึงไม่ยอมลงมือทำ สุดท้าย ก็ไร้ผลงาน และตกกระป๋องแพ้คนเก่งน้อยกว่าไปในที่สุด
ความจริงแล้วคนที่เป็นคนเก่งนั้นมีแต้มต่อคนอื่นมากมาย ทั้ง เรียนรู้ได้เร็ว มีความผิดพลาดน้อย แต่ก็เป็นจุดด้อยด้วยเพราะพอคนเราเป็นคนเก่งก็มักจะสามารถเรียนรู้และทำสิ่งต่างๆ ให้ในเวลาอันรวดเร็ว จึงไม่ค่อยมีความอดทน หรือที่เขาเรียกว่าความอึด คนเหล่านี้เมื่อเจองานที่ต้องอาศัยความอดทน ก็มักจะหมดแรงกายแรงใจในเวลาอันรวดเร็ว อย่างที่เขาเรียกว่า ไม่มีน้ำอดน้ำทน หรือ จับจด ซึ่งมีความเข้าใจผิดว่ามาจากความเกียจคร้าน แต่ความจริงแล้ว มาจากความเก่งต่างหาก เพราะเขาเก่งมาก จึงไม่เคยต้องออกแรงทำอะไรนานๆ ก็สำเร็จ พอถึงคราวที่ต้องออกแรงมากๆ ก็มักจะแพ้คนที่เผชิญความยากลำบากมาตลอด อย่างคนกลางๆ ไม่ค่อยเก่ง จึงทำให้คนเก่งมักจะแพ้คนเก่งน้อยกว่าในการทำงานจริง อย่างที่เขาเรียกว่า ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด
สิ่งสำคัญในการทำงานเป็นทีมเวิร์ค คือ ไม่ใช่เอาแต่หาคนเก่งมาร่วมทีม แต่สิ่งที่ควรทำคือ หาคนธรรมดาที่มีใจรักการทำงาน มาร่วมทีม เพราะจะได้ทั้งความถ่อมตน หนักเอาเบาสู้ และ การทำงานประสานส่งเสริมกัน
ไม่ใช่ว่าคนเก่งและอดทนไม่มีหรอกนะ แต่ของเพอเฟ็กต์ มันหายากน่ะ ถ้ามีใกล้ตัวก็รักษาพวกเขาไว้ดีๆ ก็แล้วกัน